วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ศิลปะวัฒนธรรม
ผู้หญิงมักมีบทบาทสำคัญในครอบครัวและชุมชนในประวัติศาสตร์ยุคต้นของมัลดีฟส์
มัลดีฟส์มี สุลต่าน หญิงหรือผู้ปกครองซึ่งเป็นหญิง
และมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่ากาลครั้งหนึ่งสังคมมัลดีฟส์มีผู้หญิงเป็นใหญ่ ในสังคมปัจจุบันของมัลดีฟส์
ผู้หญิงดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานรัฐบาลและธุรกิจมากมาย
มีข้าราชการเป็นผู้หญิงในสัดส่วนที่สูง
อัตราส่วนการรับเข้าศึกษาและการจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา
ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงมีจำนวนใกล้เคียงกันมาก
ผู้หญิงมีตำแหน่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎร
เทศกาลสำคัญ
วัฒนธรรมและประเพณีของชาวท้องถิ่นยึดรูปแบบของชาวมุสลิมเป็นสำคัญ ตั้งแต่การประกอบ
พิธีทางศาสนา ไปจนถึงวิถีชีวิตประจำวัน
ซึ่งจะความเคร่งครัดในเรื่องการแต่งกายและอาหารเครื่องดื่มตามหลักศาสนา
จำกัดอยู่ในตัวเมืองหลวงเป็นส่วนใหญ่ส่วนบนเกาะอื่นๆ
นั้นจะมีบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวชายทะเล
ที่ให้อิสระเสรีแด่แขกผู้มาเยือนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันรีสอร์ต
รวมถึงการคมนาคมทางเรือและเครื่องบิน ก็ถึงพร้อมในมาตรฐานระดับโลก
ทั้งปลอดภัยและทันสมัย
ชาวบาหลีเชื่อว่าโลกคือบ้านของพวกเขาและนักเดินทางคืออาคันตุกะของพวกเขา
ถึงแม้ว่าการขยายตัวของการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาทำให้ท่าทีเชิงบวกนี้ได้เปลี่ยนไป
แต่ชาวบาหลีในปัจจุบันก็ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มชนที่มีความเป็นมิตร
และน้ำใจไมตรีสูงมากกลุ่มหนึ่ง และก็ยังคงเป็นผู้ที่มีประเพณี
เป็นหัวใจของการดำรงชีวิต
นักท่องเที่ยวควรให้ความเคารพต่อประเพณีและทัศนคติของชาวบาหลี
ที่อาจแตกต่างจากทัศนคติของตน ชาวบาหลีมีความสุภาพเป็นอย่างมาก
และรอยยิ้มเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะ
ในปัจจุบันการทักทายด้วยการจับมือแบบตะวันตกเป็นการทักทายที่ใช้อยู่ทั่วไปทั้งชายและหญิง
การใช้มือข้างซ้ายในการให้หรือรับของเป็นพฤติกรรมต้องห้าม
(เนื่องจากมือข้างซ้ายใช้สำหรับทำกิจกรรมในห้องน้ำ)
การใช้มือซ้ายชี้ก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน
และการกระดิกนิ้วเรียกก็ถือว่าเป็นการไม่สุภาพอย่างมากเช่นกัน
Ramadan
ช่วงเดือนเก้าของปฏิทินจันทรคติของอิสลามถือเป็นเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด
Eid-ul lhaa
Eid-ul lhaa
เทศกาลบวงสรวง ตรงกับวันที่ 10 เดือน Zul Hiija หรือวันที่ 66
หลังวันเสร็จสิ้นการถือศีลอด เป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวมัลดีฟส์ ราว 5-7 วัน
ในช่วงนี้ผู้คนนิยมเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงตามเกาสะต่างๆ
และมีการแสดงดนตรี เต้นรำ
และกีฬาพื้นเมืองร่วมกับการเต้นรำและดนตรีสมัยใหม่
Kuda Eid
Kuda Eid
วันสิ้นสุดเดือนถือศีลอด ในตอนเช้าชาวมุสลิมจะเดินทางไผปสวดมนต์ที่มัสยิด
จากนั้นจะมีการฉลองที่บ้าน เชิญญาติพี่น้อง เพื่อน
และเพื่อนบ้านมาร่วมรับประทานอาหาร ถือเป็นช่วงวันหยุดยาว 3 วัน
วันประสูติศาสดา
วันประสูติศาสดา
ชาวมัลดีฟส์เฉลิมฉองวันคล้ายวันประสูติศาสดาเช่นเดียวกับชาวมุสลิมทั่วโลก มีการเชิญแขกไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน
การแสดงพื้นเมือง
Bodu
Beru Music
เป็นหนึ่งในการแสดงพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมมาก
พบได้ตามหมู่เกาะที่มีคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ การแสดงนี้เป็นการแสดงที่ผู้คนทุกวัยชื่นชอบ
และเข้าร่วม อุปกรณ์การแสดงจะประกอบด้วยกลองสามหรือสี่อันซึ่งทำจากมะพร้าว
มีนักร้องนำหนึ่งคนและผู้ร่วมวงร้องเสียงประสานอีกจำนวน 10 – 15 คน

Bandiyaa
Jehun Dance
เป็นหนึ่งในการแสดงที่นิยมเช่นกัน
โดยให้นักแสดงหญิงถือโถน้ำโลหะ ในขณะที่ทำการร้องเพลงซึ่งแต่งขึ้นก็จะทำการเคาะตามจังหวะด้วยนิ้วมือซึ่งสวมแหวนเบาๆ

ศิลปะ หัตถกรรมพื้นเมือง
มัลดีฟส์ศิลปะและหัตถกรรมเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของพื้นหลังทางวัฒนธรรมของประเทศที่สะท้อนถึงจิตใจของผู้คน
ที่นี่สามารถพบศิลปหัตถกรรมมากมายจากช่างฝีมือของมัลดีฟส์ มีการแกะสลักหินปะการัง ศิลปะการปั้นที่ซับซ้อน
มีหัตถกรรมจากการสานพรมโดยบรรดาหญิงชาวบ้าน มีพรมลายต่างๆในหลากหลายขนาดให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อกลับไปประดับบ้าน ศิลปะของที่นี่เป็นจุดสนใจและได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน
นอกจากนี้หากต้องการชมศิลปะเก่าแก่ของมัลดีฟส์สามารถหาดูได้จากแกลเลอรี่เอสเจฮิ
(Esjehi Gallery) ที่ตั้งแกลเลอรี่เอสเจฮิถือได้ว่าเป็นตึกเก่าแก่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในมาเล่
สร้างขึ้นตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1870 เดิมเป็นบ้านขุนนาง ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นที่แสดงงานศิลปะ
ทั้งศิลปะร่วมสมัยและศิลปะพื้นเมืองของมัลดีฟส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน Medhuziyaaraiy
Magu
อาหาร มัลดีฟส์
อาหารมัลดีฟส์แบบดั้งเดิมจะขึ้นอยู่กับส่วนประกอบสามรายการหลักต่อไปนี้และเครื่องปรุงอื่นๆ
มะพร้าว
มะพร้าวจะใช้ในรูปแบบขูด
คั้นให้ได้กะทิหรือเคี่ยวเป็นน้ำมันมะพร้าวสำหรับทอด Hunigondi
เป็นอุปกรณ์พื้นบ้านของมัลดีฟส์แบบดั้งเดิมที่ใช้ขูดมะพร้าว
มันเป็นเก้าอี้เตี้ยทรงยาวกับใบมีดเหล็กเป็นซี่ ๆ ที่ส่วนปลาย
(คล้ายกระต่ายขูดมะพร้าวของไทย)
กะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญในแกงหลายชนิดของมัลดีฟส์
ปลา
ปลาที่นิยมคือปลาทูน่าทั้งแห้งหรือสด ปลาที่ชื่นชอบอื่น ๆ
จะได้แก่ปลา little tuny (latti) ปลาทูน่าเหลือง (kanneli) ปลาทูน่าฟริเกต
(raagondi) bigeye scad (mushimas) wahoo (kurumas) and Mahi-mahi (fiyala)
ปลาเหล่านี้สามารถรับประทานต้มหรือแปรรูป
ชิ้นปลาทูน่าแปรรูปอาจจะใช้ทั้งชิ้นหรือตัดแบ่ง ในการทำแกง
ปลาดิบหรือปลาทูน่าแปรรูปถูกตัดออกเป็นชิ้นหนาขนาด 1/2 นิ้ว(13 มม.
)ปลาทูน่าแห้งใช้เป็นหลักในอาหารที่เรียกว่า gulha kavaabu bajiyaa และ
fatafolhi ชาวมัลดีฟส์ไม่ได้มีประเพณีการรับประทานปลาดิบ
ซึ่งแตกต่างจากชาวหมู่เกาะแปซิฟิกส่วนใหญ่
แป้ง
แป้งที่นิยมบริโภค เช่นข้าวซึ่งต้มกินหรือบดเป็นแป้ง
พืชหัวเช่นเผือก (ALA) มันเทศ (kattala) หรือมันสำปะหลัง (dandialuvi)
เช่นเดียวกับผลไม้ เช่น สาเก (bambukeyo) ลำเจียกหรือเตยทะเล (kashikeyo)
พืชหัวและสาเกจะต้มกิน ผลลำเจียกจะกินดิบหลังจากหั่นเป็นชิ้นบาง
ตัวอย่างอาหารมัลดีฟส์
- Dhon Riha (Maldivian Tuna Curry)
- Masroshi เป็นแป้งที่นำไปอบในเตาที่มีใส้ในเป็นทูน่าเป็นชิ้นเล็กๆซึ่งผสมพริก หัวหอม ขิง ผงแกงลงไปผสมกันกับน้ำมะนาวและเกลือ และมะพร้าว


สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)